วันจันทร์ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2559

Body Wrapping มาลดขาด้วยการพันแผ่นฟิล์มกันเถอะ




          การลดกระชับสัดส่วน เพื่อให้ได้หุ่นที่สวย เรียวงาม เป็นสิ่งที่สาว ๆ ปรารถนากันนะคะ สำหรับบางท่านที่อาจจะมีสัดส่วนที่ต้องการกระชับเป็นพิเศษในบางจุดที่ต้องการ ก็อยากจะหาเครื่องมือที่สามารถมาช่วยกระชับได้ บทความในคราวนี้ ก็ได้นำเอาเรื่องราวของการกระชับสัดส่วนด้วยแผ่นฟิล์มใส หรือที่เรียกว่า Body Wrapping มาบอกกล่าวกันค่ะ
        Body Wrapping หรือการกระชับสัดส่วนด้วยแผ่นฟิล์มใสนี้ ถือว่าเป็นศาสตร์ที่มีมานานพอสมควรแล้วค่ะ โดยสามารถลดกระชับสัดส่วนในบางจุดที่เราต้องการ หรือสามารถทำได้ทั้งตัวค่ะ ซึ่งวิธีนี้ช่วยลดทั้งเซลล์ลูไลท์ (ผิวเปลือกส้ม), กระชับสัดส่วนที่หย่อนคล้อยให้เต่งตึงขึ้นได้, ลดสัดส่วนที่เราให้ลดลง, ช่วยให้การไหลเวียนของโลหิตดีขึ้นได้อีกด้วย
          เจ้าตัวแผ่นฟิล์มใสนี้ บางครั้งเราอาจใช้เป็นฟรอยด์ หรือแผ่นผ้า หรือชุดกระชับก็ได้เช่นเดียวกัน ซึ่งเจ้าตัวแผ่นฟิล์มใสนี่ หากดูผาด ๆ หน้าตามันเหมือนกับเจ้าพลาสติกแรพที่ใช้ถนอมอาหารมาก ๆ (แต่ผู้เชี่ยวชาญบอกว่าเป็นคนละอย่างกันค่ะ)โดยใช้ควบคู่กับครีมหรือเจลหรือน้ำมัน ซึ่งมักเป็นสารที่สกัดมาจากธรรมชาติ อาทิเช่น น้ำมันจากดอกลาเวนเดอร์, ต้นไซปรัส เป็นต้น โดยเจ้าครีมที่ทาแบบนี้ มักมีประสิทธิภาพหลังทาก็คือ ให้ความร้อนแก่ร่างกายบริเวณที่ทาค่ะ
          ก่อนการใช้ครีมคู่กับแผ่นฟิล์ม คุณควรเตรียมร่างกายให้พร้อม ด้วยการงดเครื่องดื่มแอลกฮอลล์, ชา-กาแฟ, อาหารแปรรูปต่าง ๆ, ของหมักดอง อย่างน้อย 1 วัน พร้อมกับดื่มน้ำเปล่ามาก ๆ อย่างน้อย 2-3 ลิตร เพื่อให้ร่างกายขับของเสียต่าง ๆ ออกมาทางปัสสาวะให้มากที่สุด และทำการวัดสัดส่วนในจุดที่ต้องการไว้ด้วยนะคะ เพื่อจะได้นำมาเปรียบเทียบหลังการทำได้ค่ะ
          จากนั้นเราก็จะมาเริ่มทำการทรีตเม้นท์กันเลย ด้วยการชำระร่างกายให้สะอาด เช็ดตัวให้แห้ง และนำครีมหรือน้ำมันดังกล่าวมาทาในบริเวณหรือจุดที่เราต้องการ กระชับสัดส่วน อาทิเช่นต้นขา, น่อง เป็นต้น นวดไปประมาณ 10-15 นาที หลังจากนั้นก็นำแผ่นฟิล์มใสมาพันรอบบริเวณนั้น โดยในรอบแรกให้พันให้รอบแบบธรรมดา พอรอบที่ 2 ค่อยดึงให้แน่นขึ้นเพื่อให้สัดส่วนจะได้กระชับ พันอย่างน้อย 4-5 รอบ หรือให้เรารู้สึกว่ากระชับแน่นดีค่ะ ทิ้งไว้อย่างน้อย 45 นาที ถึง 1 ชั่วโมง จึงค่อย ๆ แกะแผ่นฟิล์มใสออกค่ะ ในขณะที่พันแผ่นฟิล์มใสอยู่ คุณสามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ และควรดื่มน้ำให้มากด้วยนะคะ ทำต่อเนื่องกันอย่างน้อย 1 สัปดาห์ค่ะ หลังจากนั้นลองวัดสัดส่วนแล้วนำมาเปรียบเทียบกับครั้งแรกนะคะ แล้วคุณจะพบว่าสัดส่วนของคุณลดลงจริง ๆ ค่ะ แต่จะมากหรือน้อย ขึ้นอยู่ในแต่ละบุคคลเองนะคะ
          หวังว่าคุณ ๆ คงได้วิธีการในการกระชับสัดส่วนเพิ่มเติมขึ้นมาอีกวิธีนะคะ แล้วไว้จะนำวิธีการอื่น ๆ มาแนะนำกันอีกในคราวต่อ ๆ ไปค่ะ

วันพุธที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2559

ลดความอ้วนจากงานบ้าน ทำได้ง่ายไม่เปลืองเงิน


จริงๆแล้วการลดความอ้วนมีมากมายหลายวิธีที่จะสรรหามาได้ ไม่ว่าจะหายามารับประทาน งดอาหารค่ำ ออกกำลังกาย แต่มีอีก  1 อย่างที่เราไม่เคยคิดเลยว่าจะนำมาเป็นวิธีลดความอ้วนได้ดีแบบไม่ต้องลงทุน กินไปก็ลงทุนแล้วเอาออกยังจะเสียเงินอีกคงรู้สึกไม่ดีใช่ไหมคะ มาลองวิธีนี้กัน คือ งานบ้านค่ะ แปลกใจใช่หรือไม่คะที่งานบ้านจะช่วยให้เราผอมได้อย่างไร  งานบ้านมีทั้งงานหนักงานเบา หากเราจัดระบบได้เหมาะกับสัดส่วนที่ร่างกายต้องการแล้ว น้ำหนักที่ว่าส่วนเกินจะค่อยๆหายไป ขอแยกเป็นประเภทการทำงานบ้าน


1.    งานขัดงานล้างงานซักงานกวาด เปรียบเสมือนเราเล่นกีฬาประเภท ไอซ์เสก็ตน้ำแข็ง
หมายถึงเช่น ล้างพื้นหน้าบ้าน  ถูบ้าน  ขัดห้องน้ำ  งานหนักชนิดนี้ ต้องอาศัยแรงกดมาก การออกแรงจะเน้นตั้งแต่ส่วนของหัวไหล่ลงไปถึง ปลายนิ้วเลยทีเดียว การออกแรงขัดนั้น แน่นอน ย่อมมีหน้าหลังซ้ายขวา ทำให้เอวเริ่มมีสัดส่วนจากการเอี้ยวตัวไปมา เปรียบการทำงาน 180 องศา ของร่างกายในแนวตั้ง
สิ่งที่ได้มาคือ


-    เอวเริ่มได้สัดส่วนมากขึ้น
-    สะโพกมีการเกร็ง ทำให้กระชับมากขึ้นไม่หย่อนคล้อย
-    หัวไหล่ ข้อต่อ ไม่เกิดพังผืดยึดติดกัน หากนึกถึงผู้สูงอายุที่ไม่สามารถชูแขนขึ้นได้ตรงเพราะมีพังผืดยึดติดจากการไม่ค่อยได้ใช้งานอีกทั้งความเสื่อมของร่างกายทำนองนั้น
-    กล้ามเนื้อในทุกสัดส่วนกระชับ ตึง
-    ข้อเท้าไม่เกิดการติดขัดจากการเคลื่อนไหวที่สม่ำเสมอเป็นจังหวะ


2.    งานรีดผ้า งานนี้นอกจากจะช่วยให้เรามีการสังเกตการณ์มองหารอยยับถือเป็นการบริหารสายตาไปในตัว ทำให้เป็นคนหัดรู้จักสังเกต งานรีดผ้าเป็นงานที่อยู่กับความร้อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสมัยนี้เตารีดไอน้ำด้วยแล้ว การเบิร์นไชมันในช่วงบนตั้งแต่ หน้าจนระดับเอว (หากยืนรีด) ไอน้ำนั้นเสมือนเราได้อบซาวน่าไปในตัว สังเกตหรือไม่ พ่อค้าแม่ค้าขายก๋วยเตี๋ยวหน้าจะใสกันทุกคน เพราะได้รับการซาวด์น่าจากไอน้ำนี่ ช่วยให้ผิวดีขึ้น ระดับชั้นไขมันลดลง


3.    การเก็บบ้าน เก็บสิ่งของให้เข้าที่เข้าทาง หากนึภภาพว่าบ้านเรารกมากแล้วละก็ น่าสนุกนะคะ การเก็บบ้านนี่เปรียบเสมือนกีฬาที่ต้องใช้พื้นที่สนามทุกตารางเมตรเลยทีเดียวเช่น บาสเก็ตบอล ฟุตบอล เพราะต้องมีการขยับร่างกายอย่างสม่ำเสมอ เรื่อยๆบ้าง เร็วๆบ้าง ไม่เป็นจังหวะแต่สม่ำเสมอ เหงื่ออกแบบชนิดที่ว่า อาบน้ำกันเลยทีเดียว บ้านก็ต้องค่อยๆเก็บนะคะ อย่าปล่อยให้รกมากจะนำพามาสู่โรคภัยไข้เจ็บ


4.    ทำกับข้าว เป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่ไม่ต้องบรรยายอะไรมากเลยตั้งแต่การเตรียมการเครื่องปรุง เครื่องเคียง ส่วนประกอบต่างๆ หากยิ่งทีการสับ โขลก ทุบ แล้วละก็ น้ำหนักกับแรงที่ออกนั้น คงเทียบได้เท่ากับการยกน้ำหนักเลยทีเดียว อย่างนี้แล้วต้นแขนที่หย่อนยานจะรออะไรอีกล่ะคะ คงหายไปในไม่กี่วันแน่นอน 


5.    ปลูกพืชผักสวนครัว งานนี้แทบไม่ต้องบรรยายถึงเรื่องของการออกแรงแบบที่จะได้ประโยชน์หลายต่อเลยทีเดียว การปลูกผักสวนครัวนั้น ไม่ว่าจะเริ่มจากการเตรียมดิน การขุด การยก การถม จนไปถึงการรดน้ำต้นไม้ การออกแรงประเภทนี้เรียกได้แทบกับได้ว่ายน้ำไปกลับ 10 รอบเลยทีเดียว ทุกสัดส่วนได้ใช้ตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า เปรียบดังเช่นเราเป็นชาวสวนคนหนึ่งเลยทีเดียว หากเรามีวิธีหลีกเลี่ยงแสงแดดช่วยด้วยก็น่าจะดีมาก

เทคนิค การลดน้ำหนักได้เร็วขึ้นจาก คือ เราต้องเกร็งหน้าท้องตลอดเวลาลักษณะแขม่วไว้ ทำให้กล้ามเนื้อเรียนรู้ที่จะยึดติดกันในขณะออกแรงในทุกสัดส่วน นอกจากจะได้ประโยชน์จากเบื้องต้นที่แจ้งแล้วสิ่งที่ได้ตามมาคือ หน้าท้องหาย แบนราบ มีกล้ามท้องเกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว หุ่นดีหุ่นสวยที่เราปรารถนานั้นจะตามมาอย่างไม่รู้ตัว

    หากเราเคยสังเกตตามหลักการง่ายๆจากแม่บ้านที่เคยอ้วนจากการมีครรภ์ น้ำหนักขึ้นอย่างรวดเร็ว เหตุใดเมื่อคลอดลูกแล้วน้ำหนักก็ลดลงอย่างรวดเร็วได้เช่นกัน หากไม่รวมถึงการนอนดึกที่ต้องคอยให้นมบุตรแล้วนั้น การใช้เวลาระหว่างการเลี้ยงดูนั้นคงต้องรวมไปถึงงานบ้านด้วยแน่นอน แล้วแบบนี้งานบ้านจะไม่ช่วยให้น้ำหนักลดได้อย่างไร หันมาสนใจสุขภาพและความสะอาดไปพร้อมกัน คงไม่น่าจะทำให้ลำบากอะไร หากเทียบกับการอดอาหาร ซื้อคอร์สลดน้ำหนัก น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีให้สำหรับทุกคนได้อย่างดีเลยทีเดียวนะคะ

สายรัดหน้าเรียว ครีมแก้ขาลาย ลดพุง

วันศุกร์ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2559

เมนูอาหารที่ควรเลี่ยง หากไม่อยากอ้วน


    การควบคุมอาหารและการออกกำลังกาย ถือว่าเป็นปัจจัยหลัก ๆ ในการควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน แต่เจ้าสองสิ่งนี้ก็มักจะเป็นสิ่งที่คุณ ๆ ละเลย อาจจะด้วยว่าเมืองไทยนี่อาหารอร่อย ๆ มีเยอะมาก และหลายหลายชนิดเสียด้วย ส่วนการออกกำลังกาย บางคนก็คงให้เหตุผลยอดฮิตว่า ไม่มีเวลา เนื่องจากต้องทำงาน ออกจากบ้านก็ตั้งแต่เช้า กว่าจะกลับก็ดึกดื่น แต่สิ่งเหล่านี้มันต้องขึ้นอยู่กับจิตใจของคุณเองด้วยนะคะว่าจะเข้มแข็งหรือไม่ มีวินัยให้ตนเองหรือเปล่า


    เมื่อว่าด้วยเรื่องการควบคุมอาหาร ก็จะมีอีกหลายท่านบอกว่า ไปทำงานอยู่ทุกวัน ต้องทำโน่นนี่ใช้พลังงานสูง จะควบคุมอาหารได้อย่างไร วันนี้เลยนำเมนูที่เป็นเมนูยอดฮิต และสิ้นคิดเวลาสั่ง มาแจกแจงให้ดูว่าแคลอรี่มันมากขนาดไหน ถ้าคุณยังกล้าสั่งทานได้ต่อไป หรือยังทานบ่อยตามใจอยากอยู่ล่ะก็ การควบคุมอาหารเพื่อลดน้ำหนักก็ยากหน่อยนะคะ


    โดยปกติแล้วคนเราต้องการปริมาณแคลอรี่เพื่อนำมาใช้เป็นพลังงานแตกต่างกันในชายและหญิง โดยชายต้องการอยู่ที่ 1,800-2,500 กิโลแคลอรี่ ส่วนหญิง ต้องการอยู่ที่ 1,500-2,000 กิโลแคลอรี่ และยังแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคลอีก เพราะการเผาผลาญของร่างกายที่แตกต่างกันไปนั่นเอง ต้องบอกก่อนว่า หากเราต้องการลดหรือควบคุมน้ำหนัก ปริมาณแคลอรี่ที่เราเอาเข้า ต้องน้อยกว่าปริมาณแคลอรี่ที่นำออก ซึ่งปริมาณแคลอรี่นำเข้า ก็ได้แก่บรรดาอาหาร ของกินต่าง ๆ ที่เราทานเข้าไป ส่วนปริมาณแคลอรี่นำออก ก็ได้แก่การออกกำลังกาย การขยับตัวทำกิจกรรมต่าง ๆ นั่นเอง    


    คราวนี้เรามาดูปริมาณแคลอรี่นำเข้า ซึ่งก็คืออาหาร บรรดาเมนูมากมายที่เราสั่งทานกันทุกวันนั้น เมื่อคุณเห็นจำนวนแคลอรี่เหล่านี้แล้ว อาจจะคิดเปลี่ยนใจก็ได้ค่ะ


    1. ข้าวกะเพราไข่ดาว 630 แคลอรี่ เป็นไงคะ เมนูโปรด หรือที่มักเรียกกันว่าเมนูสิ้นคิด สั่งไปจานเดียวนี่มื้ออื่นคุณแทบจะทานอะไรไม่ได้อีกเลยค่ะ เพราะไม่เช่นนั้นจำนวนแคลอรี่นำเข้าเกิดพิกัดแน่ ๆ
    2. หอยทอด 580 แคลอรี่ น้อยกว่าเมนูบนนิดเดียวเองค่ะ
    3. ข้าวมันไก่ 596 แคลอรี่ ว๊าว ข้าวหอม ๆ ไก่นุ่ม ๆ เจอจำนวนแคลอรี่แบบนี้ก็แทบช็อคนะคะ
    4. ข้าวขาหมู 600 แคลอรี่ แทบไม่ต่างจากข้าวมันไก่เลยนะคะเนี่ย
    5. เส้นใหญ่ผัดซีอิ๊ว 600 แคลอรี่ 


    เมนูทั้ง 5 ที่นำมาให้ดูกัน ถือว่าได้เป็นเมนูยอดฮิตของบรรดาคนทำงาน ที่มักจะสั่งทานกันในช่วงกลางวันเลยนะคะ ซึ่งถ้าคุณต้องการคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน เมนูเหล่านี้คือเมนูต้องห้าม สังเกตง่าย ๆ ก็คือเป็นเมนูที่ใช้น้ำมันในการทำ และต้องนำสิ่งที่เราทานลงไปคลุก ผัด ทอดด้วย ฉะนั้นจะให้ดีก็ต้องเป็นเมนูประเภทนึ่ง ต้ม ตุ๋น หรือถ้าอยากจริง ๆ จะนาน ๆ ครั้งทานทีก็ได้ค่ะ และลดปริมาณลงด้วยนะคะ


สายรัดหน้าเรียว ครีมแก้ขาลาย ลดพุง

วันจันทร์ที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

ศัลยกรรมเพื่อกระชับต้นขา




          หากคุณเป็นคนที่มีน้ำหนักตัวมาก ๆ แต่มีความตั้งใจและมุ่งมั่นที่จะลดน้ำหนักอย่างจริง ๆ โดยวิธีการต่าง ๆ มากมาย  โดยเราอาจใช้วิธีการทานประเภทอาหารเสริมลดความอ้วน  ซึ่งน้ำหนักลงจริง แต่หากคุณเป็นคนที่น้ำหนักเกินมาตรฐานมาก ๆ การลดโดยวิธีนี้หากใช้ภาษาทั่วไปก็คือ อาจทำให้คุณดูเหี่ยว คือเนื้อเหลว จนบางครั้งถึงคุณจะออกกำลังกายช่วย เพื่อให้กล้ามเนื้อกระชับตัวแล้วก็ตาม แต่ทว่าก็ยังไม่เป็นผล ด้วยการแพทย์สมัยใหม่ ทำให้คุณมีทางเลือกได้ค่ะ  นั่นคือการผ่าตัดศัลยกรรมเพื่อกระชับต้นขา

          หากความคิดในการทำศัลยกรรมนี้มีอยู่ในหัวของคุณแล้วล่ะก็ อย่างแรกเลยคุณต้องหาโรงพยาบาลหรือคลินิกที่ได้มาตรฐาน เชื่อถือได้ ตลอดจนทีมแพทย์และพยาบาลที่มีความชำนาญ แล้วคุณจะทราบได้อย่างไร อย่าลืมว่าทุกวันนี้ อินเตอร์เน็ตก้าวไกลไปขนาดไหน  คุณสามารถหาข้อมูลโรงพยาบาล คลินิก ตลอดจนทีมแพทย์ที่คุณพอใจได้จากรีวิวของคนที่เคยเข้ารับการทำศัลยกรรมมาแล้ว และจากการไปลองพูดคุยกับคุณหมอด้วยตนเอง จนเกิดความมั่นใจและพอใจอย่างที่สุด จึงค่อยดำเนินการตัดสินใจ

          ก่อนการผ่าตัด  แพทย์จะให้คำแนะนำแก่คุณได้ดีที่สุดว่า สภาวะร่างกายของคุณแบบนี้เหมาะกับการผ่าตัดเพื่อกระชับต้นขาหรือไม่  หรือเหมาะกับการผ่าตัดส่วนอื่น หรืออย่างอื่นร่วมด้วย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของคุณเช่นกันค่ะ

          วิธีการยกกระชับต้นขา

        1. การผ่าตัดนี้ ต้องใช้วิธีดมยาสลบ และใช้เวลาในการผ่าตัดประมาณ 4-5 ชั่วโมง
        2. 
จะมีการเปิดแผลเป็นแนวยาวรอบต้นขา หรืออาจจะเปิดแผลเฉพาะต้นขาด้านใน ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ที่ทำการผ่าตัด
        3. 
เมื่อเปิดแผลแล้ว แพทย์จะทำการยกกระชับต้นขา โดยตัดหนังและไขมันที่หย่อนคล้อยออกเพื่อปรับแต่งต้นขาให้สวยงาม
          4. เมื่อปรับแต่งเรียบร้อย ก็จะทำการเย็บให้ตึงพอดีกับรูปทรงของต้นขา โดยเย็บใต้ผิวหนังด้วยไหมละลาย เป็นอันเสร็จเรียบร้อยกับวิธีผ่าตัดกระชับต้นขา

          เมื่อผ่าตัดเสร็จเรียบร้อยอย่านึกว่าจบแล้วนะคะ  เพราะเรายังต้องดูแลตนเองหลังการผ่าตัดต่ออีกค่ะ  ด้วยการที่คุณต้องทำความสะอาดแผลทุกวัน ตลอดจนใส่ชุดรัดกระชับรูปร่างในส่วนบริเวณต้นขาที่ทำการผ่าตัดเป็นเวลาอย่างน้อย 1 เดือน ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการกระชับกล้ามเนื้อและผิวหนังให้แข็งแรง และให้แผลหายเป็นปกติเร็วขึ้นนั่นเอง

        ทั้งนี้ทั้งนั้น ก่อนทำการผ่าตัด คุณควรปรึกษาแพทย์ให้มั่นใจก่อนนะคะ ทั้งวิธีการผ่าตัด การดูแลก่อนและหลังการผ่า และสิ่งสำคัญก็คือผลข้างเคียงที่อาจจะเกิดขึ้นจากการผ่าตัด เพราะถือว่าเป็นข้อมูลสำคัญที่คุณจะต้องรับทราบเพื่อการตัดสินใจ การผ่าตัดทุกครั้งย่อมมีเสี่ยง สิ่งนี้เป็นสิ่งที่พึงระลึกถึงเสมอนะคะ

สายรัดหน้าเรียว ครีมแก้ขาลาย ลดพุง



วันพุธที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

ขาสองข้างยาวไม่เท่ากัน โรคนี้มีอยู่จริง


    ในปัจจุบันวิทยาการต่าง ๆ มากมายต่างก็พัฒนาไปได้ไกลมาก จนบางครั้งเราเองก็ตามไม่ทัน หากเราติดตามข่าวสารในสื่อต่าง ๆ จะพบว่าวิทยาการทางการแพทย์รุดหน้าไปมาก สามารถรักษาโรคที่ในอดีตไม่สามารถรักษาได้ ก็รักษาได้แล้วในปัจจุบัน แต่ถึงกระนั้นตัวโรคเอง ก็เหมือนมีการพัฒนาตนเองไปด้วยเฉกเช่นเดียวกัน บางครั้งโรคเดิมแต่พัฒนาสายพันธุ์ของเชื้อโรค ทำให้การรักษาด้วยยาเดิม ๆ ไม่หาย หรือต้องคิดค้นเพื่อหายารักษาโรคแบบใหม่มากขึ้น บทความในคราวนี้เลยนำเสนอโรคแปลก ๆ โรคหนึ่ง นั่นคือ โรคขาสองข้างยาวไม่เท่ากัน ฟังดูแล้วแปลก ๆ นะคะ และอาการแบบนี้ถือว่าเป็นโรคอย่างหนึ่งด้วยหรือ

    โรคขาสองข้างยาวไม่เท่ากัน  โรคนี้มีอยู่จริง และได้รับยอมรับในทางการแพทย์แล้ว โดยก่อนหน้าที่จะมีการยอมรับนี้ ได้มีการวิจัยซ้ำแล้วซ้ำอีกกว่า แต่อาจจะไม่ได้รับความสนใจจากแพทย์เท่าใดนัก เพราะเนื่องจากผู้ป่วยด้วยโรคนี้ อาจจะมีอยู่ในจำนวนที่ไม่มากนัก โดยได้ใส่ชื่อโรคนี้ไว้ในระบบการจำแนกโรค ICD โดยให้โค๊ดเป็น ICD9 และตั้งชื่อโรคนี้อย่างเก๋ไก๋ว่า Unequal Leg Length หรือ Leg Length Discrepancy – LLD

    การวินิจฉัยโรค ก็คือการวัดสัดส่วนความยาวของขานั่นเอง โดยวิธีการวัดเริ่มจากโหนกกระดูกหน้าสะโพก (ASIS) ลงไปถึงตาตุ่มด้านใน (MM) หรือวัดอีกแบบก็คือวัดจากสะดือ ไปยังตาตุ่มด้านในของขาแต่ละข้าง นอกจากนี้ยังมีวิธีวัดที่ได้รับการยอมรับอีกวิธีหนึ่งคือ ให้ผู้ป่วยยืนด้วยขาข้างที่สั้นกว่าบนลัง แล้วปล่อยขาอีกข้างลอย จากนั้นก็ทำการวัดความแตกต่างของความยาว

    หากเป็นโรคนี้จะเกิดอะไรขึ้น ลองนึกถึงเราใส่รองเท้าที่มีส้นข้างหนึ่ง อีกข้างหนึ่งไม่ได้ใส่แล้วเดินค่ะ จะรับรู้ได้ถึงความลำบากในการต้องทรงตัวเพื่อที่เดินมาก ๆ เพราะเนื่องจากร่างกายไม่สมดุลนั่นเอง ซึ่งในรายผู้ป่วยโรคนี้ ก็จะทำให้เขาเกิดอาการปวดหลัง ปวดคอ ชนิดที่ว่าไปหาหมอ ทานยาอะไรก็ไม่หาย กลายเป็นปวดหลัง ปวดคอเรื้อรังไปเลยทีเดียว หากท่านใดมีอาการดังกล่าวนี้อยู่ ไปหาหมอมาหลายที่ หลายท่าน ก็ยังไม่หาย ลองให้ความสำคัญกับเรื่องขาไม่เท่ากันดูบ้างนะคะ

    วิธีการแก้ไขง่ายแสนง่าย โดยคุณต้องทำให้ขาเท่ากัน ด้วยการใส่แผ่นเสริมเข้าไปที่รองเท้า อาจต้องหาร้านที่สามารถปรับระดับความสูงของรองเท้าให้คุณในข้างที่มีปัญหาได้ตามความต้องการนะคะ ลำบากนิดแต่ก็สามารถแก้ไขได้ค่ะ แล้วเจ้าโรคปวดหลัง ปวดคอของคุณจะหายเป็นปลิดทิ้งเลยทีเดียว

อาหารลดน้ําหนัก ครีมแก้ขาลาย ลดพุง



วันเสาร์ที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

ใบบัวบก สมุนไพรไทยแก้เส้นเลือดขอด


    ปัญหาเส้นเลือดขอด ถือว่าเป็นปัญหาใหญ่สำหรับสาว ๆ ปัญหาหนึ่งกันเลยทีเดียว เนื่องจากเมื่อเป็นแล้ว ย่อมทำให้สูญเสียความมั่นใจเวลาที่ต้องการจะอวดเรียวขา และนับวันด้วยวิถีชีวิตการทำงาน ที่จำเป็นจะต้องนั่งอยู่หน้าคอมเป็นเวลานาน ๆ ก็ถือว่าเป็นปัจจัยอีกตัวที่ทำให้เกิดเส้นเลือดขอดได้เร็วมากขึ้น และจากงานวิจัยหลาย ๆ ตัวพบว่า

นอกจากเส้นเลือดขอดที่ใบบัวบกช่วยคุณได้แล้ว  กรณีที่คุณมีขาแตกลาย เจ้าใบบัวบกก็มีความสามารถช่วยให้รอยแตกลายจางลงได้ด้วยเช่นกัน น่าสนใจแล้วใช่ไหมล่ะค่ะ เราลองมาดูรายละเอียดเจ้าสมุนไพรไทยบ้าน ๆ ตัวนี้กันดีกว่าค่ะ

    ใบบัวบก เป็นสมุนไพรที่มีถิ่นที่อยู่ในแถบเอเชียของเรานี่เอง โดยในอดีต คนสมัยก่อนมักนิยมใช้ใบบัวบกเพื่อรักษาแผลให้หายเร็วขึ้น ตลอดจนลดการอักเสบของแผลดังกล่าวอีกด้วย ซึ่งจริง ๆ แล้ว ใบบัวบกยังมีสรรพคุณทางยาอีกมาก อาทิเช่นรักษาโรคลมชัก ท้องเสีย ท้องอืด ได้อีกด้วย

ทั้งนี้เพราะเจ้าใบบัวบกมีวิตามิน และแร่ธาตุต่าง ๆ อยู่ในตัวของมันอย่างมากมาย อาทิ วิตามินเอ, วิตามินบี 1, วิตามินบี 2, วิตามินซี, แคลเซียม, แมกนีเซียม, เหล็ก เป็นต้น ดังนั้น นอกจากนี้ยังมีสรรพคุณในการช่วยเสริมสร้างและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว, มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ทำให้คืนความอ่อนเยาว์ต่อผิวของคุณ เมื่อกล่าวถึงสรรพคุณในข้อนี้แล้ว คงพอจะนึกออกแล้วใช่ไหมคะว่า ใบบัวบกจะช่วยรักษาผิวแตกลายได้อย่างไร

    ในส่วนของเส้นเลือดขอดนั้น ใบบัวบกมีสรรพคุณในการช่วยลดความดันเลือด เพิ่มความยืดหยุ่นให้หลอดเลือดดำ ตลอดจนช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือด ป้องกันและลดการเกิดเส้นเลือดขอดได้อีกด้วย ใบบัวบกแม้เป็นใบเล็ก ๆ แต่สรรพคุณถือว่าเล็กพริกขี้หนูจริง ๆ เลยนะคะ  ว่าแล้วมาลองทำน้ำใบบัวบกทานกันค่ะ

    วิธีการก็มีง่าย ๆ ดังนี้คือ

    1. นำใบบัวบกมาล้างน้ำให้สะอาด (อาจจะล้างประมาณ 2-3 ครั้งค่ะ)
    
    2. จากนั้นนำมาปั่นผสมกับน้ำสะอาดต้มสุกประมาณ 2 ถ้วย กะให้ปริมาณน้ำท่วมใบบัวบกค่ะ (ถ้าไม่มีเครื่องปั่น ก็ใช้ครกตำให้ละเอียดแทน และใส่น้ำสะอาดลงไปทำละลาย)

    3. นำมากรองด้วยผ้าขาวบาง เอากากทิ้งไป เพื่อให้เหลือแต่น้ำ ประมาณ 1-3 ครั้ง (หากบ้านใครมีเครื่องปั่นแบบแยกกากได้ ก็จะดีค่ะ) แล้วต่อด้วยการผสมน้ำเชื่อมความหวานมากน้อยขึ้นอยู่กับคุณเลยค่ะ จากนั้นชิมรสตามชอบ แนะนำให้ดื่มสด ๆ ใส่น้ำแข็งสักหน่อยจะได้ชื่นใจ หรือจะแช่ตู้เย็นเก็บไว้ทานก็ได้ค่ะ แต่ไม่ควรเกิน 3 วันนะคะ

    เพียงง่าย ๆ เท่านี้เราก็ได้น้ำสมุนไพรจากใบบัวบกที่ถูกสุขอนามัยทานกันแล้ว แถมยังได้ประโยชน์ในการช่วยบรรเทาเส้นเลือดขอด, ขาแตกลาย และอื่น ๆ อีกเพียบทีเดียวค่ะ

สายรัดหน้าเรียว อาหารลดน้ําหนัก ลดพุง

วันพฤหัสบดีที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

อยากผิวขาวแบบประหยัด แต่ปลอดภัยเชิญทางนี้


    ในยุคนี้ไอดอลของใครหลาย ๆ คน มักมีรูปร่างสวยงาม เอวคอด สูง ขาว ผิวมีสุขภาพดีกันทั้งนั้น  ทำให้ในตอนนี้บ้านเราจึงนิยมความขาวกันมาก โดยมักไปซื้อผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ว่าขาวกันมากมายมาใช้ ทั้งทาและทาน  บางผลิตภัณฑ์ก็ได้ผลดี แต่มีราคาสูง  บางผลิตภัณฑ์ราคาถูก ตอนใช้ก็ขาวดี แต่พอหยุดใช้กลับดำกว่าเดิม  ซึ่งถ้าเป็นอย่างนี้ต้องระวังนะคะ

    ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่คุณจะนำมาเลือกใช้นั้น หลัก ๆ ต้องดูที่ส่วนผสม วันหมดอายุ ราคาสมเหตุสมผล รีวิวต่าง ๆ ของผู้ใช้รายอื่น ๆ ประกอบเข้าไปกับการตัดสินใจเลือกใช้ อีกทั้งเราจะเห็นได้ว่าในท้องตลาดนั้น ผลิตภัณฑ์สำหรับทานที่วางขายกันมากมายจนเลือกไม่ถูกนั้น มักโฆษณาว่ามีส่วนผสมของคอลลาเจน ซึ่งเมื่อทานเข้าไปจะทำให้ขาว แต่คุณ ๆ ทราบกันหรือไม่ว่า หากร่างกายทานคอลลาเจนเข้าไปตรง ๆ นั้น ไม่สามารถจะดูดซึมเข้าร่างกายเพื่อนำมาใช้งานได้ เท่ากับทานไปเพื่อถ่ายทิ้งเท่านั้น

แถมผลิตภัณฑ์เหล่านั้นยังมีราคาสูงอีกด้วย แต่คุณทราบหรือไม่ว่าคุณสามารถมีผิวที่ขาวขึ้นและดูสุขภาพดีได้ง่าย ๆ ในราคาประหยัดเพียงทานวิตามินซีในปริมาณที่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นวิตามินซีที่ได้จากผัก ผลไม้ หรือจากวิตามินสำเร็จรูปที่ขายเป็นเม็ดอยู่ในท้องตลาด ซึ่งสามารถหาได้ง่าย อีกทั้งยังมีราคาถูก เราลองดูมาประโยชน์ของวิตามินซีกันนะคะ

    1. ช่วยปกป้องเซลล์ผิวให้มีสุขภาพดี โดยนักวิชาการได้กล่าวว่าวิตามินซีเป็นหนึ่งในวิตามินผิวบำรุงผิว ที่มีส่วนสำคัญในการผลิตคอลลาเจน ช่วยทำให้ผิวหนังมีความยืดหยุ่นเป็นอย่างมาก

         2.ช่วยในการรักษาบาดแผลให้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น วิตามินซีช่วยเพิ่มปริมาณของธาตุเหล็ก ที่ร่างกายสามารถดูดซับจากแหล่งอาหารประเภทพืช อาทิเช่น ผักคะน้า บล็อกโคลี่ และกะหล่ำ เป็นต้น ซึ่งเป็นการช่วยลดรอยแผลเป็นที่เกิดขึ้นหลังจากการบาดเจ็บให้น้อยลง

         3. อุดมด้วยสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่ดี ช่วยป้องกันความเสียหายที่เกิดขึ้นจากโมเลกุลที่เป็นอันตรายต่อความงามได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยลดความหยาบกร้านและริ้วรอยบนผิวได้เป็นอย่างดี

         4.วิตามินซีมีประโยชน์ต่อผิว สุขภาพดวงตา เหงือก ช่วยเตรียมความพร้อมของร่างกายเพื่อสู้กับเชื้อโรค เป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่ดี และยังช่วยในการต่อต้านริ้วรอย กระตุ้นการผลิตคอลลาเจน ทำให้ผิวดูนุ่ม แลดูอ่อนเยาว์มากขึ้นกว่าเดิม

         แล้วควรจะต้องทานเท่าไหร่กัน  นักวิชาการได้แนะนำไว้ว่า  ปริมาณที่เหมาะสมสำหรับการบริโภคในหนึ่งวัน ควรทานอย่างน้อยวันละ 75 มิลลิกรัม และไม่ควรเกินวันละ 2000 มิลลิกรัม ก็เพียงพอต่อร่างกายที่จะทำให้ผิวของคุณสดใสเปล่งปลั่ง ขาวอย่างมีสุขภาพดีแล้วล่ะค่ะ

อาหารลดน้ําหนัก ครีมแก้ขาลาย ลดพุง


วันจันทร์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2559

อยากให้ผิวขาวใส ต้องทานวิตามินซีตอนไหนดี


    อย่างที่เคยนำเสนอบทความไปแล้วว่า หากคุณ ๆ อยากมีผิวขาวใส เปล่งปลั่ง สุขภาพดี สามารถมีได้ง่าย ๆ ไม่ยุ่งยาก หาซื้อหาทานง่าย  นั่นคือการทานวิตามินซี  เพราะวิตามินซีจะมีคุณสมบัติมากมาย และหากอยากจะทาน ควรจะทานตอนไหน เมื่อไหร่ ปริมาณขนาดไหนถึงจะเพียงพอ  เรามาอ่านบทความนี้กันเลยค่ะ

    วิตามินซี หรือ Ascorbic Acid เป็นวิตามินที่สามารถละลายน้ำได้ และยังเป็นสิ่งที่มีความจำเป็นต่อร่างกาย ในการสร้างคอลลาเจนในกระดูกอ่อน กล้ามเนื้อ และหลอดเลือด ร่างกายของคนเราสามารถที่จะได้รับวิตามินซีจากธรรมชาติ ด้วยการทานอาหารประเภทผัก และผลไม้ เช่น มะรุม มะนาว ส้ม มะขามป้อม ฝรั่ง กีวี ลิ้นจี่ สตรอเบอร์รี่ หรืออาจจะได้รับวิตามินซีปริมาณสูงๆ จากการทานผลิตภัณฑ์อาหารเสริมก็ได้เช่นกัน

    วิตามินซีนั้นนอกจากมีส่วนช่วยสร้างคอลลาเจน ซึ่งเป็นที่ถูกอกถูกใจของสาว ๆ ที่อยากมีผิวขาว ใส แล้ว  ยังมีคุณสมบัติเป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นสาเหตุที่จะทำให้เรามีผิวเหี่ยวย่น แก่ก่อนวัยได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย นอกจากนี้ด้วยคุณสมบัติในการละลายน้ำได้ ทำให้วิตามินซีกลายเป็นสิ่งที่สามารถช่วยบำรุงรักษา ทั้งภายในและภายนอกของเซลล์ ในการต่อสู้กับความเสียหายที่เกิดขึ้น

จากอนุมูลอิสระได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะในบริเวณผิวหนัง ซึ่งนับเป็นอวัยวะที่ใหญ่ที่สุดของมนุษย์ นอกจากนี้ยังช่วยชะลอความแก่ ลดริ้วรอย ดังนั้นจึงถือได้ว่าวิตามินซีมีความพิเศษในด้านความสวยงามของผิวพรรณเป็นอย่างมากเลยทีเดียว

    แต่ในด้านอื่น ๆ วิตามินซีก็มีประโยชน์ด้วยเช่นกัน อาทิเช่นช่วยบำรุงหลอดเลือดให้แข็งแรง, ทำให้ลดความอยากสารนิโคตินในบุหรี่, ลดและบรรเทาอาการไมเกรนและไซนัส, ลดและบรรเทาอาการหอบหืด, บรรเทาอาการหวัด  เป็นไงละคะคุณประโยชน์ของเจ้าวิตามินซี  ซึ่งจริง ๆ ยังมีอีกมากนะคะ แต่นี่นำมาให้ดูเพียงบางส่วนเท่านั้น

    และเมื่อเห็นถึงประโยชน์มากมายเช่นนี้แล้ว คุณ ๆ ย่อมอยากจะทานเจ้าวิตามินซีกันแล้วนะคะ  ซึ่งเวลาที่เหมาะสมนั้นก็เป็นเวลาใดก็ได้ในระหว่างวัน  แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นควรทานทุกวันอย่างสม่ำเสมอถึงจะมีประสิทธิภาพดี  และหากต้องการจะเน้นในเรื่องของความงามคือผิวพรรณที่ขาวใส เปล่งปลั่ง แลดูอ่อนกว่าวัยนั้น คุณควรทานวิตามินซีในปริมาณอย่างน้อยวันละ 1000 - 2000 มิลลิกรัมขึ้นไปนั่นเอง

    นอกจากนี้ควรดูแลในด้านอื่น ๆ เสริมเข้าไปด้วยนะคะ อาทิการทาครีมบำรุงผิว การทาครีมกันแดด อีกทั้งการหลีกเลี่ยงที่จะเจอกับแสงแดดโดยตรง  การงดแอลกอฮอลล์  เพียงเท่านี้ผิวของคุณก็จะขาวใสขึ้น และมีสุขภาพดีไปอีกนานค่ะ

อาหารลดน้ําหนัก ครีมแก้ขาลาย ลดพุง


วันศุกร์ที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2559

วิธีทาริมฝีปากให้สวยโดนใจ


    บทความวันนี้นำวิธีในการทาริมฝีปากมาฝากคุณสาว ๆ กันค่ะ บางครั้งเราอาจมีความรู้สึกว่าลิปสติกติดไม่ทนเลย  หรือสาว ๆ บางท่านอาจมีปัญหาเรื่องริมฝีปากใหญ่หรือเล็กเกินไปจะทาลิปสติกอย่างไรดี เลยมีเทคนิคต่าง ๆ มาให้ลองทำกัน ทั้งสวยใสและแก้ไขจุดบกพร่องต่าง ๆ ได้ด้วย เมื่อทดลองทำจนคล่องดีแล้ว  คราวนี้การแต่งแต้มริมฝีปากก็จะกลายเป็นง่ายไปเลยทีเดียวค่ะ

    @ วิธีการทาปากสีเข้ม

    1. ขั้นตอนแรกทาลิปมันแบบไม่มีสีบนริมฝีปาก ทั้งนี้เพื่อให้การลงสีนั้นง่ายขึ้น
    2. จากนั้นเขียนขอบปากที่เป็นสีโทนเดียวกันกับสีลิปสติกสีเข้มที่เราจะใช้ เพื่อตีกรอบรูปปากให้ทาสีลิปแล้วดูสวยและชัดขึ้น
    3. ตามด้วยการเขียนขอบปากสีที่อ่อนลงมาอีกหน่อย เสร็จแล้วค่อยทาลิปสติกสีเข้มที่ต้องการทาไล่จากขอบปากที่เขียนเข้ามาอีก แต่เว้นพื้นที่ตรงกลางริมฝีปาก
    4. หลังจากทาสีเข้มเสร็จแล้ว ก็ทาลิปสติกสีอ่อนโทนสว่างตรงกลางปากที่เว้นไว้อีกที  และปิดงานด้วยการทาลิปสติกมันวาวเฉพาะตรงกลางปากที่ทาสีอ่อน เท่านี้ก็เสร็จเรียบร้อย  ซึ่งวิธีการทาลิปแบบนี้จะทำให้ริมฝีปากของคุณดูมีมิติมากขึ้น และก็จะดูไม่เข้มจนเกินไป และยังทำให้ริมฝีปากคุณดูเล็กลงอีกด้วยนะคะ

    @ วิธีทาปากแบบธรรมชาติ
    1. เริ่มต้นด้วยการทาลิปมันที่ไม่มีสีก่อนเสมอค่ะ จากนั้นตามด้วยการทาลิปสติกสีนู้ดหรือลิปคอนซีลเลอร์ลงไป
    2. แต้มทินต์สีแดงลงบนริมฝีปากล่างบนจุดสามจุด  แต่อย่าแต้มเยอะนะคะ ต่อด้วยการเกลี่ยทินต์ที่แต้มไว้ให้เข้มขึ้นอีกนิดตรงริมฝีปากล่างที่แต้มไว้ตอนแรก
    3. ใช้นิ้วเกลี่ยสีทินต์ที่ทา  ให้เนียนทั่วริมฝีปากล่าง ปิดท้ายทาลิปสติกที่มีความมันวาวแต่ไม่มีสีอีกเช่นกัน วิธีนี้จะทำให้ริมฝีปากคุณดูเป็นธรรมชาติสุขภาพดี เหมาะสำหรับวันที่ แต่งตัวเบาๆ สบายๆ

    @ วิธีทาลิปสติกให้ริมฝีปากดูเล็กลง
    ขั้นตอนแรกควรลงคอนซีลเลอร์ทั่วริมฝีปากก่อน โดยแบ่งแต้มเป็นจุด ๆ ริมฝีปากบน 3 จุด และริมฝีปากล่าง 3 จุด จากนั้นเกลี่ยให้ทั่ว เพื่อเป็นการรองพื้นริมฝีปากให้เป็นสีนู้ด จากนั้นทาลิปสติกสีเฉพาะริมฝีปากด้านในทั้งบนและล่าง และตบท้ายด้วยลิปสติกแบบใสมันวาว

    @ วิธีทาลิปสติกให้ริมฝีปากดูอวบอิ่ม
    ขั้นตอนแรกให้ลงคอนซีลเลอร์เฉพาะบริเวณขอบริมฝีปากทั้งหมด  จากนั้นทาสีลิปสติกที่ต้องการให้ทั่ว ซึ่งการทาคอนซีลเลอร์ที่ขอบริมฝีปากทั้งหมดนั้นเหมือนเป็นการเน้นสีบริเวณนั้น ให้มีความสว่างอีกทั้งเป็นการตีกรอบปากให้ดูชัดขึ้นหลังทาสีลิปสติกลงไปอีกด้วย

    @ วิธีทาลิปสติกให้ริมฝีปากดูเหมือนยิ้ม
    ขั้นตอนแรกทาลิปมันไร้สีลงไปก่อนเพื่อความชุ่มชื้น จากนั้นตามด้วยทิ้นต์แต้มลงไป 2 จุดบริเวณกึ่งกลางริมฝีปากทั้งบนและริมฝีปากล่าง เกลี่ยให้เนียนทำเฉพาะบริเวณกึ่งกลางปากเท่านั้น ปิดท้ายทาลิปสติกแบบมันวาวลงไป

    @ วิธีทาลิปสติกให้สีลิปสติกติดทนนาน
    1. หลังจากทาลิปสติกสีที่ต้องการเรียบร้อยแล้ว ให้สาว ๆ เม้มริมฝีปากกับกระดาษทิชชู่
    2. จากนั้นใช้พู่กันจุ่มแป้งเด็กเล็กน้อยแล้วทาทับลงไปบนสีลิปสติก
    3. ตบท้ายด้วยการทาสีลิปสติกที่ทาไว้ตอนแรกทับอีกครั้ง เพียงบางๆ ก็เพียงพอ
    หวังว่าคงได้เคล็ดลับกันไปเพียบเลยนะคะ  คราวนี้ล่ะสาว ๆ จะได้มีริมฝีปากที่สวยสดใสสมใจกันแล้วค่ะ

อาหารลดน้ําหนัก ครีมแก้ขาลาย ลดพุง

วันพุธที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2559

สาวหน้ามัน ก็มีข้อดีนะจ๊ะ


    หนึ่งในหลาย ๆ ปัญหาของสาว ๆ ก็คงไม่พ้นเรื่องผิวหน้า ซึ่งมีด้วยกันหลากหลายอาการ แตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล  แต่ปัญหายอดฮิตอย่างหนึ่งที่คุณ ๆ คงประสบกันอยู่ก็คือ “หน้ามัน”  สาว ๆ หลายท่านมักมีอาการหน้ามันเยิ้มกว่าคนปกติทั่วไป  และนั่นทำให้เป็นข้อกังวลใจอย่างหนึ่งของคุณ ๆ กันเลยทีเดียว  เพราะนอกจากจะทำให้ขาดความมั่นใจในการพบปะผู้คน  เพราะเจอะเจอใครก็ต้องคอยควักแผ่นซับหน้ามาซับกันอยู่บ่อยครั้ง  หรืออาจจะเรื่องสิวเจ้าปัญหา  ซึ่งมักผุดขึ้นมามากกว่าคนอื่น ๆ และอีกสารพัดปัญหา  จนหลาย ๆ ท่านคงท้อใจ หรือไปหาคุณหมอเพื่อรักษากันเลยทีเดียว  แต่คุณทราบหรือไม่ว่าการที่คุณเป็นคนหน้ามัน  ก็มีข้อดีอยู่หลายข้อที่ดีกว่าคนที่มีผิวหน้าปกติหรือผิวแห้งนะคะ 

    1. ริ้วรอยบนใบหน้ามาเยือนช้ากว่าคนอื่น คุณได้เปรียบสาว ๆ ผิวหน้าแบบอื่นนะคะ ตรงที่ริ้วรอยต่าง ๆ หรือตีนกาจะมาเยือนช้ากว่า ทั้งนี้เพราะน้ำมันบนผิวหน้าของคุณ ช่วยให้ผิวหน้าชุ่มชื้น ไม่แห้งตึงอยู่ตลอดเวลานั่นเอง

    2. ผิวฉ่ำเป็นธรรมชาติ แบบไม่ต้องพึ่งเมคอัพเลย เวลาแต่งหน้าแล้วทิ้งไว้สักพักให้ความมันออกมาสักหน่อย ผิวหน้าจะดูฉ่ำแบบมีสุขภาพดีมาก ๆ เลยล่ะค่ะ แต่หากความมันออกมามากไป ก็ต้องซับออกบ้างนะคะ

    3. ไม่ต้องลงครีมบำรุงหลายอย่าง ถึงจะมีผิวมัน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าไม่จำเป็นต้องทามอยส์เจอไรเซอร์ เพราะถึงอย่างไรคุณก็ควรทำความสะอาดผิวให้สะอาด และลงมอยส์เจอไรเซอร์เพื่อล็อกความชุ่มชื้นไว้ในผิวอยู่ดี เพียงแต่ว่ายังไม่ต้องบำรุงมากมายเท่าสาวผิวแห้ง ประหยัดเวลาขึ้นเยอะเลยนะคะ

    4. ผลิตภัณฑ์มีให้เลือกใช้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นคลีนซิ่ง, โทนเนอร์, มอยส์เจอไรเซอร์ รวมถึงพวกเมคอัพที่ช่วยควบคุมความมันต่าง ๆ ก็มีให้เลือกมากมายเต็มไปหมด ก็เปรียบได้ว่าสาวผิวมันนี่เป็นกลุ่มตลาดของเหล่าบรรดาบริษัทเพื่อความงามกันเลยทีเดียว

    5. ผิวนุ่มและแข็งแรง โดยปกติแล้วสาวผิวมันจะมีน้ำมันตามธรรมชาติเคลือบบนผิวตลอดเวลา ซึ่งเหตุนี้เองที่เป็นข้อดีที่ทำให้ผิวของคุณจะนุ่มเนียนน่าสัมผัส และยังทำให้ผิวหน้าดูไม่เหี่ยวอีกด้วย นอกจากนี้สาวผิวมันยังมีชั้นผิวที่แข็งแรงและหนากว่าสาวผิวแห้ง ทำให้ไม่ว่าสภาวะอากาศแบบใด สาวผิวมันก็ไม่มีปัญหาผิวต่าง ๆ
    จะเห็นได้ว่าสาวผิวมันอย่างเรา ๆ นั้น ก็มีข้อดีอยู่หลากหลายไม่ใช่น้อย  ปัญหาที่ต้องประสบจากผิวหน้ามันก็อาจมีบ้าง แต่เมื่อเทียบกับสาวผิวแห้งแล้ว  ก็ดูว่าปัญหาของเราจะเล็กลงไปเลย  จริงไหมคะ

อาหารลดน้ําหนัก ครีมแก้ขาลาย ลดพุง

วันอาทิตย์ที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2559

วัยใสแต่งหน้าอย่างไรดี


    มีบทความในเรื่องการแต่งหน้ามาก็หลากหลายบทความ  ซึ่งเนื้อหาก็จะแตกต่างกันออกไป  มาคราวนี้ก็จะมาเจาะลึกวัยใสกันบ้างนะคะ  เพราะวัยรุ่นเดี๋ยวนี้โตไว ทั้งรูปร่างและความคิด  มีความอยากรู้อยากเห็นอยากลอง และเริ่มมีความรักสวยรักงามมาก ๆ เลยทีเดียว แล้วหากวัยรุ่นอยากจะแต่งหน้าขึ้นมาบ้างควรมีวิธีการอย่างไร

    1. ไม่จำเป็นต้องแต่งมากมาย โดยธรรมชาติน้อง ๆ วัยรุ่นทั้งหลายได้เปรียบในเรื่องความใส ความละเอียดของผิวหน้ามากกว่าผู้ใหญ่เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว อีกทั้ง      เทรนด์การแต่งหน้าก็เน้นโชว์ผิวใส สุขภาพดี มากกว่าจะแต่งเข้มเพื่อปกปิด ดังนั้นแล้วแต่งหน้าใส ๆ บาง ๆ ให้เหมาะกับวัยได้อย่างไม่ต้องไปเปลี่ยนตัวเอง จากเดิมไปเป็นอีกคนเลยค่ะ

    2. เน้นตาไม่ต้องเน้นปาก ถ้าเน้นปากไม่ต้องเน้นตา ถือว่าเป็นกฎการแต่งสำหรับทุกเพศทุกวัยได้เลยนะคะ เพราะถ้าคุณแต่งหน้าโดยหนักไปเสียทุกอย่าง มันก็จะแย่งซีนกันเด่นเองค่ะ ในวัยใสก็แต่งเพียงอ่อน ๆ โดยการปัดมาสคาร่าเบา ๆ และเน้นที่ทาลิปสติกสีเข้ม ๆ เช่นชมพู หรือเน้นดวงตากลมโตด้วยอายไลเนอร์ ก็ทาลิปกลอสหรือลิปบาล์มใส ๆ ก็เพียงพอค่ะ

    3. กันคิ้วให้ได้รูปเสมอ คิ้วถือว่าเป็นองค์ประกอบบนใบหน้าที่ทำให้หน้าตาของสาว ๆ ดูดีขึ้นมาได้ทันทีโดยไม่ต้องแต่งเติมอะไรมากมาย โดยเพียงแค่กันคิ้วให้เข้ารูปเท่านั้นเอง ส่วนสาวคิ้วบางอาจใช้อายแชโดว์สีน้ำตาลเข้มเขียนคิ้วให้ชัดขึ้นสักหน่อยก็ได้ โดยเมื่อใช้สีนี้จะทำให้ดูคิ้วเป็นธรรมชาติ แต่ถ้าใครคิ้วเยอะอยู่แล้ว แค่ใช้เจลปัดขนคิ้วใส ๆ ปัดคิ้วให้เรียงเส้นเป็นระเบียบสวยก็พอแล้วค่ะ

    4. ใช้มาสคาร่าสีน้ำตาล หากต้องการให้ดูเป็นธรรมชาติ สำหรับวัยใสก็ใช้สีน้ำตาลเข้มค่ะ เพราะหากใช้สีดำ จะทำดวงตาดูดุและเป็นผู้ใหญ่ค่ะ และด้วยบ้านเราร้อนเหลือเกิน ดังนั้นควรเลือกมาสคาร่าแบบกันน้ำก็จะดีมากค่ะ

    5. ใช้ดินสอเขียนขอบตาสีน้ำตาล เพื่อเพิ่มความกลมโตให้ดวงตาของคุณ การกรีดตาด้วยอายไลน์เนอร์แบบน้ำหรือแบบเจล จะทำให้ตาดูคม เฉี่ยว แต่ในที่นี้เราต้องการลุคน่ารักเป็นธรรมชาติ และเขียนเส้นเล็ก ๆ บาง ๆ ก็พอนะคะ

    6. ใช้อายแชโดว์สีอ่อน หากแต่งหน้าด้วยลุควัยใส ควรเลือกโทนสีอ่อน ๆ เช่นสีชมพู สีเนื้อ จะทำให้สดใสสมวัยค่ะ

    กล่าวโดยรวมอีกครั้งคือพวกเขียนขอบตา, คิ้ว และมาสคาร่า เน้นสีน้ำตาลเข้มเพื่อความเป็นธรรมชาติ  และสีอายแชโดว์, บลัชออนและลิปสติก เน้นโทนสีอ่อน ๆ เช่นชมพูค่ะ  และแต่งเพียงบาง ๆ ก็เหมาะสมกับวัยแล้วค่ะ

อาหารลดน้ําหนัก ครีมแก้ขาลาย ลดพุง