วันพุธที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2558
ครีมหน้าเรียว ช่วยคุณได้จริงหรือ อ่านก่อนโดนหลอก
สาว ๆ ที่อยากมีรูปหน้า V-line แบบสาวเกาหลี ชนิดที่ว่าถ่ายรูปมุมไหนก็ดูดี จะตั้งใจเซลฟี่ด้วยตนเอง หรือถูกแอบถ่ายก็มั่นได้ตลอดว่ารูปจะออกมาดีทุกมุมแน่ ๆ ย่อมต้องหาตัวช่วย เคล็ดทั้งลับและไม่ลับทุกวิถีทาง ซึ่งผู้เขียนคิดว่า 1 ในนั้นจะต้องมีครีมหน้าเรียวหรือเซรั่มหน้าเรียวรวมอยู่ด้วยเป็นแน่ เราลองมาวิเคราะห์กันไหมคะว่าเจ้าครีมนี้มันคืออะไร แล้วมันช่วยให้หน้าเรียวได้จริง ๆ หรือไม่
ครีมหน้าเรียวหรือเซรั่มหน้าเรียวนั้น บ้านเรามีอยู่หลากหลายแบรนด์ให้เลือกสรรมาก ๆ และก็จะมีส่วนผสมแตกต่างกันไป แต่โดยส่วนใหญ่จะต้องมีเจ้า Acetyl Hexapeptide 8 ซึ่งเจ้าสารตัวนี้มีลักษณะเป็นน้ำใส ๆ มีสรรพคุณช่วยลดริ้วรอยที่เป็นร่องลึกจากสภาพผิวหนังที่เปลี่ยนแปลงไปตามอายุที่มากขึ้น และยังมีส่วนยับยั้งการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ และช่วยยกกระชับผิวให้กระชับเต่งตึง ซึ่งเป็นเสมือนหัวเชื้อต้องนำมาผ่านกรรมวิธีตลอดจนผสมให้ได้สัดส่วนที่พอเหมาะ จึงจะใช้ได้อย่างปลอดภัย
จากประสิทธิภาพที่ได้กล่าวไปนั้น จะเห็นได้ว่าหากเรานำครีมหน้าเรียวหรือเซรั่มหน้าเรียวมาใช้ ก็จะทำให้ผิวหน้าของเราดูเต่งตึง กระชับมากขึ้น เป็นการยกกระชับผิวหน้า ซึ่งก็จะมีผลทำให้รูปหน้าของเราดูเล็กลงนั่นเอง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นผลลัพธ์ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวหน้าของแต่ละบุคคลด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้การหาซื้อครีมหรือเซรั่มหน้าเรียวมาใช้นั้น คุณต้องพิจารณาให้ละเอียดถี่ถ้วนถึงร้านที่ขายว่าน่าเชื่อถือหรือไม่ การหมดอายุของครีมหรือเซรั่ม ได้รับ อย.หรือไม่ และหากมีเลข อย. ในมือ กรุณานำไปตรวจสอบในเว็บไซต์ http://fdaolap.fda.moph.go.th/logistics/cosmetic/CSerch.asp?id=cos ด้วยนะคะ ว่าเลข อย. ดังกล่าวไม่ได้ถูกโมเมสวมเพื่อมาหลอกผู้บริโภคอย่างเรา ๆ อีกทั้งไม่ควรเก็บครีมหรือเซรั่มในที่โดนความร้อน หรือมีอากาศร้อน เพราะจะทำให้ครีมหรือเซรั่มเสื่อมสภาพได้ง่ายและเร็วขึ้น ดังนั้นแนะนำให้เก็บครีมหรือเซรั่มไว้ในตู้เย็นจะเป็นการดีที่สุดนะคะ
แต่สิ่งที่ควรคำนึงร่วมด้วยยังมีอีกหลายปัจจัย อาทิเช่นโครงหน้าหรือรูปหน้า หากคุณเป็นคนมีรูปหน้ากลม หรือรูปหน้าเหลี่ยม การใช้เพียงครีมหรือเซรั่มหน้าเรียวเพียงอย่างเดียวย่อมไม่เห็นผลที่ชัดเจน หรือได้ผลลัทธ์ไม่ถูกใจคุณ ดังนั้นอาจต้องมีการใช้วิธีอื่นร่วมด้วยเช่น การร้อยไหม ฉีดโบท็อก หรือแม้แต่การผ่าตัดศัลยกรรม เป็นต้น
จะเห็นได้ว่า การใช้ครีมหรือเซรั่มหน้าเรียวนั้นก็เป็นอีกตัวช่วยหนึ่งสำหรับสาว ๆ ในอันที่จะได้หน้าวีเชฟ ซึ่งต้องใช้อย่างระมัดระวังและเหมาะสมด้วยนะคะ
****************
ขอบคุณข้อมูลจาก
ที่รัดหน้าเรียว http://www.labstoryofficial.com/
ที่รัดหน้าเรียว Fanpage ที่รัดหน้าเรียว https://th-th.facebook.com/LabstoryOfficial
#ที่รัดหน้าเรียว #labstory #หน้าเรียวpantip #แล็ปสตอรี่ #vlineface #หน้าวีเชฟ #วิธีทําให้หน้าเรียว #สายรัดหน้าเรียว
วันศุกร์ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2558
การฉีดฟิลเลอร์ เสี่ยงหรือไม่ เรื่องจริงที่หลายๆคน ไม่บอก
นวัตกรรมใหม่ ๆ ในยุคนี้มีมากมายหลากหลาย ทั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับสิ่งที่ผู้บริโภคอย่างเรา ๆ ต้องการ โดยเฉพาะในเรื่องความสวยงามนั้น ที่มีเทรนด์โน่น เทรนด์นี่เข้ามาเรื่อย ๆ อาทิหน้าเรียว จมูกโด่ง สักคิ้ว เป็นต้น ทำให้มีเครื่องมือ ตลอดจนกรรมวิธีอันทันสมัยมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการศัลยกรรม ฉีดโบท็อก ฉีดฟิลเลอร์ ซึ่งหากคุณเป็นคนหนึ่งที่มีปัญหาเกี่ยวกับรูปหน้า และกำลังมองหาวิธีการที่จะช่วยเสริม หรือแก้ไขอย่างรวดเร็วทันใจแล้วล่ะก็ ลองอ่านบทความชิ้นนี้ดูนะคะ
คงพอเป็นที่ทราบกันนะคะสำหรับการฉีดฟิลเลอร์ คือการที่คุณหมอจะฉีดสารบางชนิด ซึ่งมีส่วนประกอบของคอลลาเจนเข้าไปในผิวหนัง ซึ่งโดยปกติเจ้าคอลลาเจนเนี่ยก็มีอยู่แล้วในผิวหนังคนเรา แต่เมื่ออายุมากขึ้น คอลลาเจนนี้ก็จะเสื่อมสภาพไปตามกาลเวลาด้วยเช่นกัน มีผลทำให้ผิวหนังที่เคยกระชับ เต่งตึง ก็จะเกิดการหย่อนคล้อย จึงได้มีการฉีดฟิลเลอร์เข้าไปเพิ่มเติมในผิวหนัง เพื่อให้ผิวกลับฟื้นฟูสภาพขึ้นมาอีกครั้ง โดยปกติหากเราไปทำการร้อยไหม หากคลินิกมักมีการฉีดฟิลเลอร์บ้าง หรือโบท็อกบ้าง โดยขายควบคู่กันเป็นแพคเกจ ทั้งนี้เพื่อให้หลังการทำ ผู้เข้ารับการฉีดจะสามารถเห็นความแตกต่างได้ค่อนข้างทันทีเลยทีเดียว
แต่ด้วยความที่สิ่งเหล่านี้เป็นค่านิยมอย่างหนึ่ง ทำให้คลินิกศัลยกรรมความงามจึงผุดขึ้นมากมาย มีทั้งได้มาตรฐานและไม่ได้มาตรฐาน อีกทั้งประสบการณ์ความชำนาญของผู้ที่ทำการฉีดให้ก็สำคัญเช่นกัน หลายแห่งอาจใช้เพียงผู้ชำนาญงาน บางแห่งเป็นคุณหมอ อันนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่คุณสาว ๆ ควรพิจารณาให้ดีนะคะ อีกทั้งทุกครั้งของการฉีด นั่นคือความเสี่ยงทุกครั้งค่ะ เพราะบางทีครั้งอื่น ๆ ที่ฉีดไม่เกิดอาการแพ้ แต่คราวนี้คุณอาจเกิดการแพ้ ระคายเคืองก็ได้ หรือการทำความสะอาดผิวหน้าก่อนทำการฉีดไม่ดี ก็มีผลทำให้เกิดอาการแพ้ได้เช่นเดียวกัน ตลอดจนผู้ทำการฉีด คือคุณหมอหรือผู้ชำนาญการฉีดในจุดที่ต้องการฉีดตื้นเกินไป หรือฉีดในปริมาณที่มากเกินไป อันนี้ก็ทำให้เกิดการระคายเคืองในภายหลังได้เช่นเดียวกันค่ะ
บางครั้งฉีดแล้วมันไปกระจุกอยู่ที่เดียว จนคลำเป็นก้อน ซึ่งอันนี้หากทิ้งไว้ประมาณ 1-3 เดือนแล้วยังไม่ดีขึ้น คงต้องกลับไปหาคุณหมอเพื่อแก้ไขนะคะ และสิ่งสำคัญที่อยากเตือนสาว ๆ ก็คืออย่าฉีดบริเวณรอบดวงตาเป็นอันขาด เพราะบริเวณนั้นถือได้ว่าเป็นส่วนผิวหน้าที่บอบบางที่สุดและแพ้ได้ง่ายที่สุด
นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงในอันที่เกิดอันตรายขึ้นได้อีกมากมายหลายกรณี ซึ่งคุณควรถามตัวคุณเองว่า หากเกิดในกรณีอาการแพ้หรือเหตุสุดวิสัยอะไรก็แล้วแต่ คุณยอมรับความเสี่ยงหรือพิษภัยจากอาการเหล่านั้นได้หรือไม่ ยังไม่ต้องไปคิดเรื่องเรียกร้องความเสียหายหรอกค่ะ เพราะถึงตอนนั้นจริง ๆ ตัวคุณเองคือผู้รับผลนั้นแบบเต็ม ๆ ดังนั้นจึงควรพิจารณาให้ถี่ถ้วนกันมาก ๆ นะคะ
****************
#ที่รัดหน้าเรียว #labstory #หน้าเรียวpantip #แล็ปสตอรี่ #vlineface #หน้าวีเชฟ #วิธีทําให้หน้าเรียว #สายรัดหน้าเรียว
ขอบคุณข้อมูลจาก
ที่รัดหน้าเรียว http://www.labstoryofficial.com/
ที่รัดหน้าเรียว Fanpage https://th-th.facebook.com/LabstoryOfficial
วันพฤหัสบดีที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2558
Vaser ดูดไขมันที่แก้มและคางกำจัดปัญหาหน้ากลม
เดี๋ยวนี้มีเทคนิคใหม่ๆมากมายมานำเสนอสาวๆที่รักสวยรักงามกัน อย่างวันนี้สาวๆที่มีปัญหาเหนียงยาน หน้ากลม คงยิ้มกว้างกันเลยค่ะ กับเทคนิคศัลยกรรมทำสวยได้ง่ายๆไม่เจ็บตัวมากอย่าง การดูดไขมัน สลายไขมัน แบบ Vaser Lipo selection น่าจะผ่านหูสาวๆมาบ้างแล้วแต่รายละเอียดการอัพสวยได้อย่างไรนั้นเรามาลองดูกันดีกว่าว่าเทคนิคนี้ดีอย่างไรนะคะ
ก่อนอื่นเรามารู้จักกับ Vaser Lipo Selection กันก่อนค่ะ เป็นนวัตกรรมใหม่ในการดูดไขมัน ที่ทำให้ร่างกายได้รับความบอบช้ำน้อย แทบไม่ต้องพักฟื้นนานค่ะ โดยเทคนิคการทำงานของวิธีนี้คือการใช้คลื่นเสียงอัลตราโซนิกที่มีความถี่สูง เพื่อเกิดความร้อนในการแตกตัวของเซลล์ไขมัน จนสลายตัว เหมือนแปลรูปไขมันที่แข็งๆให้กลายเป็นของเหลว เพื่อทำการดูดไขมันที่ละลายเหล่านั้นออกมาจากร่างกายทำให้เป็นวิธีที่ส่งผลกระทบต่อร่างกายน้อย ไม่ทำอันตรายต่อเนื้อเยื่อข้างเคียง เช่น เส้นประสาท เส้นเลือด และเนื้อเยื่อเกี่ยวพันอื่น ๆ ค่ะ
ขั้นตอนของการทำ Vaser
บริเวณที่เราจะทำการดูดไขมันออกจะต้องทำการฉีดน้ำเกลือเข้าไป และฉีดยาชาเพื่อให้ไม่รู้สึกเจ็บและลดการเสียเลือด อย่างเวเซอร์ที่คางและ แก้มจะทำการเจาะน้ำเกลือที่หลังใบหูทั้งสองข้าง และใต้คาง 1 ที่ ระหว่างทำจะไม่รู้สึกอะไรเพราะฉีดยาชาแล้ว
เครื่อง vaser จะปล่อยคลื่นเสียงความถี่สูงเพื่อสลายไขมันขากแข็งจนเป็นของเหลว โดยจะทำลายเฉพาะไขมันเท่านั้น เมื่อไขมันสลายตัวเป็นของเหลวแล้ว จะถูกดูดออกมาจากร่างกาย โดยจุดที่ถูกดูดออกมาจะถูกเย็บปิด 1-3 เข็มโดยเกิดรอยแผลเป็นน้อยมาก ใช้เวลาในการทำประมาณ 30นาทีค่ะ
จากนั้นทำการพักฟื้น ให้ผิวหนังค่อยๆหดตัวกลับสูสภาพเดิม ในช่วง 24 ชั่วโมงแรกให้เราใช้ผ้าช่วยพยุงหน้าเอาไว้ โดยต้องพันผ้าให้แน่นๆ และห้ามแผลโดนน้ำเพื่อที่แผลจะได้แห้งไวๆ จากนั้นหมอก็จะนัดมาตัดไหม อีก 1 อาทิตย์
หลังจากการทำการดูดสลายไขมันแล้วในช่วงแรกอาจจะรู้สึกระบม ปวด บ้างและ อาจมีรอยช้ำบริเวณที่ทำการดูดสลายไขมัน และอาการจะเริ่มดีขึ้นใน 1 อาทิตย์ และจะเข้าที่ดีในระยะเวลา 1 เดือน สำหรับค่าใช้จ่ายในการทำ vaser อยู่ที่ประมาณ 30000-50000บาทค่ะแล้วแต่สถานเสริมความงาม
สำหรับวิธีการดูดไขมันแบบ vaser นั้นก็ได้รับความนิยมมากเช่นกันในปัจจุบันเพราะปลอดภัย ไม่อันตราย และทำได้เฉพาะจุดที่เราต้องการเช่นกันค่ะ และเป็นวิธีที่เห็นผลชัดเจนด้วยค่ะ ใช้เวลาไม่นานในการรักษาตัว ใครที่มีปัญหาเหนียงยาน แก้มย้อยก็ลองพิจารณากันดูนะคะว่าเราเหมาะกับวิธีนี้หรือไม่
#ที่รัดหน้าเรียว #labstory #หน้าเรียวpantip #แล็ปสตอรี่ #vlineface #หน้าวีเชฟ #วิธีทําให้หน้าเรียว #สายรัดหน้าเรียว
ขอบคุณข้อมูลจาก
ที่รัดหน้าเรียว http://www.labstoryofficial.com/
ที่รัดหน้าเรียว Fanpage https://th-th.facebook.com/LabstoryOfficial
วันจันทร์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2558
สายรัดหน้าเรียว ลวงโลก จริงหรือป่าว
บางทีคนเราก็ไม่ได้เกิดมาสมบูรณ์แบบ มีใบหน้ารูปไข่ สูง ขาว หุ่นดี หรืออะไรก็ตามที่เป็นเทรนด์ยอดฮิตในขณะนี้ ทำให้เราเสาะแสวงหาตัวช่วยต่าง ๆ หรือแม้กระทั่งการทำศัลยกรรม ซึ่งมีอย่างแพร่หลายทั้งในและต่างประเทศ แต่การทำศัลยกรรมนั้นก็ออกจะสุ่มเสี่ยงในสายตาหลาย ๆ คน เพราะเราต้องพิจารณาข้อดีข้อเสียมากมาย เนื่องจากเราอาจต้องรับสิ่งแปลกปลอมเข้าสู่ร่างกาย อีกทั้งฝีมือของคุณหมอ, ผลกระทบหลังการทำ ตลอดจนการเจ็บตัวจากการผ่าตัด ทำให้สาว ๆ หลายท่านยังรีรอที่จะทำศัลยกรรม
ดังนั้นเราจึงมักหาตัวช่วยแบบอื่น ซึ่ง 1 ในหลาย ๆ อย่างนั้นก็คือสายรัดหน้าเรียว ซึ่งหลาย ๆ คนก็อาจจะกังขาว่าสายรัดที่เห็นว่ามีการดึงรั้งจากช่วงลำคอ และคางขึ้นไปด้านบนนั้น มันช่วยทำให้หน้าของเรานั้นเรียวขึ้นได้จริงหรือ ซึ่งจากผลการทดลองต่าง ๆ มันก็ช่วยได้จริง แต่ก็มีปัจจัยอื่นควบคู่ด้วย อาทิเช่น
ปัจจัยตัวแรก ก็ต้องขึ้นอยู่กับตัวคุณเอง เพราะไม่ว่าผลิตภัณฑ์จะดีขนาดไหน ประสิทธิภาพมากเพียงไร หากคุณไม่มีความขยัน และอดทน ก็จะไม่เห็นผล เพราะเราไม่ได้เพียงแค่ทำวันหรือ 2 วัน เปรียบเสมือนคุณปลูกต้นกล้า หากนั่งมองทุกวันย่อมไม่เห็นมันโต แต่หากคุณรดน้ำไปเรื่อย ๆ แล้วประมาณ 1-2 อาทิตย์มาดู คุณก็จะเห็นว่ามันต้นกล้ามันเติบโตขึ้น ก็เฉกเช่นเดียวกันค่ะ แล้วยิ่งนั่งส่องหน้ากระจก นั่งมองทุกวัน จะไม่เห็นความเปลี่ยนแปลง ดังนั้นควรถ่ายรูปก่อนทำ หลังทำ ในมุมเดิม เพื่อนำมาเปรียบเทียบถึงความเปลี่ยนแปลง
ปัจจัยตัวที่ 2 คุณภาพของผลิตภัณฑ์ ทุกวันนี้หากพูดถึงสายรัดหน้าเรียวนั้น หากคุณค้นหาจาก Google แล้ว จะพบผลิตภัณฑ์ชนิดนี้จำนวนมากมาย หลากหลายยี่ห้อ วัสดุอาจเหมือนหรือแตกต่างกันไป คุณอาจต้องพิจารณาดี ๆ เพราะวัสดุที่ดีมีคุณภาพ จะช่วยให้เราใช้ได้ในระยะเวลานาน ขณะใช้ก็ไม่เกิดอาการแพ้หรืออาการอื่นข้างเคียง ผลิตภัณฑ์ที่ได้คุ้มค่ากับราคาเงินที่เสียไป เป็นต้น
ปัจจัยตัวที่ 3 ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ควบคู่กันกับสายรัดหน้าเรียว เช่น ครีมยกกระชับใบหน้า มีส่วนผสมของอะไรบ้าง ปลอดภัยหรือไม่ มีมาตรฐานเพียงพอหรือไม่ ได้รับ อย. เรียบร้อยหรือยัง (สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ซึ่งหากเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน ผ่านการตรวจสอบ จะได้รับเลขจดแจ้งซึ่งสามารถตรวจสอบกับเว็ปไซต์ของทาง อย. ได้ว่าถูกต้องและตรงกันหรือไม่)
อีกสิ่งหนึ่งที่นำมาพิจารณาก็คือ รีวิวของผู้ที่เคยได้ใช้ไปแล้ว ว่าประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์เป็นอย่างไร ตัวของผู้ขายเองมีความน่าเชื่อถือหรือไม่ เพราะบางทีสินค้าดี แต่ไปเจอผู้ขายที่หลอกลวงอันนี้ก็แย่เหมือนกันนะคะ
หวังว่าบทความนี้คงให้ประโยชน์กับสาว ๆ ได้ไม่มากก็น้อยนะคะ จะได้เอาไว้เป็นแนวทางในการเลือกหาผลิตภัณฑ์ที่ดีและเหมาะสมกับตัวเองได้ค่ะ
****************
#ที่รัดหน้าเรียว #labstory #หน้าเรียวpantip #แล็ปสตอรี่ #vlineface #หน้าวีเชฟ #วิธีทําให้หน้าเรียว #สายรัดหน้าเรียว
ขอบคุณข้อมูลจาก
ที่รัดหน้าเรียว http://www.labstoryofficial.com/
ที่รัดหน้าเรียว Fanpage https://th-th.facebook.com/LabstoryOfficial
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)