วันศุกร์ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2558

การฉีดฟิลเลอร์ เสี่ยงหรือไม่ เรื่องจริงที่หลายๆคน ไม่บอก


    นวัตกรรมใหม่ ๆ ในยุคนี้มีมากมายหลากหลาย  ทั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับสิ่งที่ผู้บริโภคอย่างเรา ๆ ต้องการ  โดยเฉพาะในเรื่องความสวยงามนั้น  ที่มีเทรนด์โน่น เทรนด์นี่เข้ามาเรื่อย ๆ อาทิหน้าเรียว จมูกโด่ง สักคิ้ว เป็นต้น ทำให้มีเครื่องมือ ตลอดจนกรรมวิธีอันทันสมัยมากมาย  ไม่ว่าจะเป็นการศัลยกรรม ฉีดโบท็อก ฉีดฟิลเลอร์  ซึ่งหากคุณเป็นคนหนึ่งที่มีปัญหาเกี่ยวกับรูปหน้า และกำลังมองหาวิธีการที่จะช่วยเสริม หรือแก้ไขอย่างรวดเร็วทันใจแล้วล่ะก็  ลองอ่านบทความชิ้นนี้ดูนะคะ

    คงพอเป็นที่ทราบกันนะคะสำหรับการฉีดฟิลเลอร์ คือการที่คุณหมอจะฉีดสารบางชนิด ซึ่งมีส่วนประกอบของคอลลาเจนเข้าไปในผิวหนัง  ซึ่งโดยปกติเจ้าคอลลาเจนเนี่ยก็มีอยู่แล้วในผิวหนังคนเรา  แต่เมื่ออายุมากขึ้น คอลลาเจนนี้ก็จะเสื่อมสภาพไปตามกาลเวลาด้วยเช่นกัน มีผลทำให้ผิวหนังที่เคยกระชับ เต่งตึง ก็จะเกิดการหย่อนคล้อย จึงได้มีการฉีดฟิลเลอร์เข้าไปเพิ่มเติมในผิวหนัง เพื่อให้ผิวกลับฟื้นฟูสภาพขึ้นมาอีกครั้ง  โดยปกติหากเราไปทำการร้อยไหม  หากคลินิกมักมีการฉีดฟิลเลอร์บ้าง หรือโบท็อกบ้าง โดยขายควบคู่กันเป็นแพคเกจ ทั้งนี้เพื่อให้หลังการทำ ผู้เข้ารับการฉีดจะสามารถเห็นความแตกต่างได้ค่อนข้างทันทีเลยทีเดียว

    แต่ด้วยความที่สิ่งเหล่านี้เป็นค่านิยมอย่างหนึ่ง  ทำให้คลินิกศัลยกรรมความงามจึงผุดขึ้นมากมาย มีทั้งได้มาตรฐานและไม่ได้มาตรฐาน  อีกทั้งประสบการณ์ความชำนาญของผู้ที่ทำการฉีดให้ก็สำคัญเช่นกัน  หลายแห่งอาจใช้เพียงผู้ชำนาญงาน  บางแห่งเป็นคุณหมอ  อันนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่คุณสาว ๆ ควรพิจารณาให้ดีนะคะ อีกทั้งทุกครั้งของการฉีด  นั่นคือความเสี่ยงทุกครั้งค่ะ  เพราะบางทีครั้งอื่น ๆ ที่ฉีดไม่เกิดอาการแพ้  แต่คราวนี้คุณอาจเกิดการแพ้  ระคายเคืองก็ได้  หรือการทำความสะอาดผิวหน้าก่อนทำการฉีดไม่ดี ก็มีผลทำให้เกิดอาการแพ้ได้เช่นเดียวกัน  ตลอดจนผู้ทำการฉีด คือคุณหมอหรือผู้ชำนาญการฉีดในจุดที่ต้องการฉีดตื้นเกินไป  หรือฉีดในปริมาณที่มากเกินไป อันนี้ก็ทำให้เกิดการระคายเคืองในภายหลังได้เช่นเดียวกันค่ะ

บางครั้งฉีดแล้วมันไปกระจุกอยู่ที่เดียว จนคลำเป็นก้อน ซึ่งอันนี้หากทิ้งไว้ประมาณ 1-3 เดือนแล้วยังไม่ดีขึ้น คงต้องกลับไปหาคุณหมอเพื่อแก้ไขนะคะ  และสิ่งสำคัญที่อยากเตือนสาว ๆ ก็คืออย่าฉีดบริเวณรอบดวงตาเป็นอันขาด  เพราะบริเวณนั้นถือได้ว่าเป็นส่วนผิวหน้าที่บอบบางที่สุดและแพ้ได้ง่ายที่สุด

    นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงในอันที่เกิดอันตรายขึ้นได้อีกมากมายหลายกรณี  ซึ่งคุณควรถามตัวคุณเองว่า  หากเกิดในกรณีอาการแพ้หรือเหตุสุดวิสัยอะไรก็แล้วแต่ คุณยอมรับความเสี่ยงหรือพิษภัยจากอาการเหล่านั้นได้หรือไม่  ยังไม่ต้องไปคิดเรื่องเรียกร้องความเสียหายหรอกค่ะ  เพราะถึงตอนนั้นจริง ๆ ตัวคุณเองคือผู้รับผลนั้นแบบเต็ม ๆ ดังนั้นจึงควรพิจารณาให้ถี่ถ้วนกันมาก ๆ นะคะ

****************

#‎ที่รัดหน้าเรียว‬ ‪#‎labstory‬ ‪#‎หน้าเรียวpantip‬ ‪#‎แล็ปสตอรี่‬ ‪#‎vlineface‬ ‪#‎หน้าวีเชฟ‬ ‪#‎วิธีทําให้หน้าเรียว‬ ‪#‎สายรัดหน้าเรียว‬

ขอบคุณข้อมูลจาก

ที่รัดหน้าเรียว http://www.labstoryofficial.com/

ที่รัดหน้าเรียว Fanpage https://th-th.facebook.com/LabstoryOfficial

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น